ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น หลังจีน-สหรัฐลดภาษีการค้า
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นจากข่าวการผ่อนคลายภาษีการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยดัชนี Nikkei 225 และ TOPIX ของญี่ปุ่นนำตลาดในภูมิภาค ปรับขึ้น 1.7% และ 1.2% ตามลำดับ ดัชนี Straits Times ของสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 0.7% ขณะที่ ASX 200 ของออสเตรเลียพุ่ง 0.7% แตะระดับสูงสุดตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ และ KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.4% ตลาดในภูมิภาคตอบสนองตามการปรับตัวแรงของวอลล์สตรีท โดย S&P 500 พุ่งขึ้นถึง 3.3% เมื่อวันจันทร์
ความก้าวหน้าใหญ่ในการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ
สหรัฐฯ ตกลงลดภาษีศุลกากรสินค้าจีนจาก 145% เหลือ 30% เป็นเวลา 90 วัน ขณะเดียวกัน จีนลดภาษีตอบโต้จาก 125% เหลือ 10% และยังตกลงจะผ่อนปรนมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี เช่น การควบคุมการส่งออกแร่หายาก การประกาศนี้มาจากแถลงการณ์ร่วมที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น หลังการเจรจาระดับสูงที่เจนีวาในช่วงสุดสัปดาห์
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวน้อยกว่าภูมิภาค
แม้จะมีข่าวบวกจากการเจรจาการค้า แต่ดัชนี CSI 300 และ Shanghai Composite ของจีนแผ่นดินใหญ่ปรับขึ้นเพียงประมาณ 0.2% ขณะที่ Hang Seng ของฮ่องกงปรับตัวลง 1.7% จากจุดสูงสุดรอบหนึ่งเดือน นักวิเคราะห์ชี้ว่าสาเหตุอาจมาจากการขายทำกำไร และความกังวลว่าการคลี่คลายภาษีอาจทำให้จีนลดความเร่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ความตึงเครียดระหว่างอินเดีย-ปากีสถานยังอยู่ แต่การหยุดยิงยังคงอยู่
แม้ยังมีความตึงเครียด แต่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอินเดีย-ปากีสถานยังคงมีผล ดัชนี Nifty 50 ร่วง 0.5% ขณะที่ BSE Sensex 30 ลดลง 1.1% ในช่วงเปิดตลาดวันอังคาร นายกรัฐมนตรีอินเดีย โมดี เตือนว่าหากถูกโจมตีอีก อินเดียจะตอบโต้กลุ่มก่อการร้ายข้ามพรมแดน พร้อมปฏิเสธการข่มขู่ด้วยนิวเคลียร์จากปากีสถาน
จีนส่งสัญญาณพร้อมเจรจาเพิ่มเติม
สื่อ People's Daily ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แสดงความยินดีกับการลดภาษีและระบุว่าจีนพร้อมเดินหน้าการเจรจาต่อ แม้จะมีความท้าทาย โดยย้ำว่าสหรัฐฯ ต้อง "ปรับเปลี่ยนแนวทางการขึ้นภาษีฝ่ายเดียวอย่างจริงจัง"
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟิวเจอร์สอ่อนตัว
หลังจากพุ่งแรงในวันจันทร์ ดัชนีฟิวเจอร์ส S&P 500 ลดลง 0.4%, Nasdaq 100 ลดลง 0.5% และ Dow Jones ลดลง 0.3% นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ที่จะประกาศในวันอังคาร ซึ่งคาดว่าอาจยังอยู่ในระดับสูง แม้จะมีการลดภาษี
ราคาทองคำทรงตัวหลังการขายทำกำไร
ราคาทองคำแท่งไม่เปลี่ยนแปลงที่ $3,259 ต่อออนซ์ หลังจากร่วงแรงในวันจันทร์ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ แม้ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะจำกัดการฟื้นตัว ขณะที่ ฟิวเจอร์สเงิน พุ่ง 1.7% สู่ $33.02/ออนซ์ และโลหะอุตสาหกรรมยังคงแข็งแกร่งตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ราคาน้ำมันปรับตัวลงจากระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์
น้ำมันดิบ Brent ลดลง 0.3% สู่ $64.74/บาร์เรล และ WTI ลดลง 0.3% สู่ $61.77 นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่เพิ่มขึ้น โดย OPEC มีการผลิตมากกว่าที่คาดตั้งแต่เดือนเมษายน นักวิเคราะห์จาก ING ระบุว่า แม้ความตึงเครียดทางการค้าจะคลี่คลาย แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูงหลังจากช่วงเวลา 90 วันสิ้นสุด
ค่าเงินเอเชียแข็งค่าตามดอลลาร์ที่อ่อนลง
เงินเยน (USD/JPY) แข็งค่าขึ้น 0.4%, หยวนทั้งในและนอกประเทศแข็งค่าขึ้น 0.2%, ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งขึ้น 0.2% ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ลดลง 0.2% ในตลาดเอเชีย หลังจากพุ่งขึ้นในวันก่อนหน้า
ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย
รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ชินอิจิ อุชิดะ กล่าวว่า ค่าจ้างและราคาสินค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้จะมีความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ BOJ พร้อมจะขึ้นดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คณะกรรมการคาดการณ์ไว้
