- แม้ McDonald’s จะสามารถฝ่าภาวะตลาดที่ผันผวนในภาคธุรกิจอาหาร แต่จำนวนลูกค้ากลุ่มรายได้ต่ำกำลังลดลงอย่างมาก
- แม้ McDonald’s จะสามารถฝ่าภาวะตลาดที่ผันผวนในภาคธุรกิจอาหาร แต่จำนวนลูกค้ากลุ่มรายได้ต่ำกำลังลดลงอย่างมาก
หุ้น McDonald’s ปรับขึ้น 3% หลังบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 ออกมาแบบผสม นักลงทุนมองว่าการเติบโตของยอดขายเทียบเท่า (comparable sales) เป็นสัญญาณบวก แม้ภาคธุรกิจโดยรวมยังเผชิญความยากลำบากในการขยายตัว
ตัวเลขสำคัญจากผลประกอบการ McDonald’s ไตรมาส 3 ปี 2025
-
รายได้รวม: $7,078 ล้าน เพิ่มขึ้น 3% YoY แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ 0.36%
-
EBIT: $3,357 ล้าน เพิ่มขึ้น 5% YoY
-
กำไรต่อหุ้นปรับปรุง (Adjusted EPS): $3.22 เท่าเดิม YoY ลดลง 3% จากคาดการณ์
ภาพรวมตลาดและการเติบโต
หุ้น McDonald’s ปรับขึ้นในช่วงเปิดตลาดหลังรายงานผลประกอบการ โดยบริษัทรายงานการเติบโตของรายได้ในทุกภาคส่วน
-
ยอดขายเทียบเท่าร้าน (Global comparable sales): เพิ่มขึ้น 3.6% YoY ในไตรมาส 3/2025 โดยมาจากธุรกิจแฟรนไชส์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 4.7%
-
ธุรกิจที่บริษัทเป็นเจ้าของ: เติบโต 2.4%
-
ธุรกิจแฟรนไชส์ต่างประเทศ: เติบโต 4.3%
-
ยอดขายรวม: เพิ่มขึ้น 6% ที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่
การเติบโตของยอดขายเทียบเท่าเป็นตัวชี้วัดที่ดีสำหรับบริษัทที่มีความเป็นผู้ใหญ่ในตลาดแข่งขันสูง ซึ่งหลายบริษัทเลือกใช้กลยุทธ์ลดราคา
กลยุทธ์และการตอบสนองตลาด
-
จำนวนลูกค้ากลุ่มรายได้ต่ำในสหรัฐฯ ลดลงสองหลัก ขณะที่กลุ่มรายได้สูงเพิ่มขึ้นสองหลักในไตรมาสเดียวกัน ช่วยชดเชยผลกระทบ
-
McDonald’s เปิดตัวสินค้าพิเศษราคาต่ำเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด
-
ขยายส่วนเครื่องดื่ม เช่น Cold Brew Coffee และเครื่องดื่มผลไม้สดชื่น ตรงโจมตี Starbucks ที่กำลังเผชิญความท้าทาย
-
กลยุทธ์นี้ช่วยสร้างรายได้หลากหลายและชดเชยความอ่อนแอของภาคธุรกิจ
กำไรและอัตราผลตอบแทน
-
การเติบโตของกำไรช้ากว่าการเติบโตของยอดขาย เนื่องจากดอกเบี้ยและภาษีสูงขึ้น
-
อย่างไรก็ตามในเชิงปฏิบัติ McDonald’s มีไตรมาสที่มั่นคง
หุ้นและมูลค่า
-
หุ้นปรับขึ้นเพียง 3% ในปีนี้ แต่ยังซื้อขายที่อัตราส่วน P/E >25
-
สะท้อนความมั่นคงของบริษัทและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการเติบโตในระยะยาว แม้ตลาดจะเผชิญความท้าทาย
Source: xStation5
สรุปข่าวเช้า
US OPEN: นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนหลังการปรับฐานหรือไม่?
Arista Networks ร่วง 12% แม้รายงานผลประกอบการออกมาดี 📉
DE40: ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากกลุ่มเทคโนโลยี