- ดัชนีหุ้นอเมริกันปรับตัวขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางกระแสความสัมพันธ์ที่ผ่อนคลายระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยดัชนี S&P 500 หลักพุ่งขึ้นกว่า 3% ทะลุระดับ 5,800 จุด ดัชนี Dow Jones เพิ่มขึ้น 2.6% ขณะที่ดัชนี Nasdaq (+4.2%) และดัชนี Russell 2000 ของหุ้นขนาดเล็ก (+3.6%) แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด
- แรงขับเคลื่อนหลักของแนวโน้มขาขึ้นในครั้งนี้มาจากกลุ่มบริษัท Mag7 โดยเฉพาะหุ้นของ Amazon และ Meta Platforms ซึ่งปรับตัวขึ้นเกือบ 8%
- ผลจากการเจรจาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ และจีนได้ประกาศลดภาษีศุลกากรซึ่งกันและกันเป็นเวลา 90 วัน โดยลดลงถึง 115 จุดเปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ภาษีสำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 10% ขณะที่ภาษีสำหรับสินค้าจีนจะอยู่ที่ 30% (ซึ่งรวมภาษีที่เกี่ยวข้องกับสารเฟนทานิลด้วย) ความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีขึ้นระหว่างสองประเทศนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงที่กดดันตลาดในช่วงเดือนที่ผ่านมา
- ตลาดตอบสนองในทันที ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ยกเว้นทองคำซึ่งปรับลดลงมากกว่า 3% ในวันนี้ ดัชนี VIX หรือดัชนีวัดความผันผวนของตลาดลดลงกว่า 14%
- แนวโน้มการลงทุนแบบเสี่ยง (Risk-on) ยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่เพียงแต่สะท้อนในดัชนีหุ้นหลักที่ปรับตัวขึ้น แต่ยังรวมถึงการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe haven) ด้วย ราคาทองคำที่ปรับตัวลดลง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งทะลุระดับ 4.45%
- กฎระเบียบใหม่ของทรัมป์ที่ประกาศในวันนี้ ซึ่งมุ่งลดราคายาในสหรัฐฯ ปรากฏว่ามีความเข้มงวดน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทผู้ผลิตยาปรับตัวขึ้น เช่น Eli Lilly เพิ่มขึ้นประมาณ 3.7%, Pfizer เพิ่มขึ้น 3.5% และ Bristol-Myers Squibb เพิ่มขึ้นกว่า 4%
- บริษัท Infineon Technologies AG ได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ทั้งปี และคาดว่ารายได้ในปีงบประมาณ 2025 จะลดลงเล็กน้อยจากแรงกดดันของค่าเงินและผลกระทบจากภาษีศุลกากร
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าครองตลาดฟอเร็กซ์ในวันนี้ โดยการแข็งค่าของสกุลเงินสำรองหลักของโลกได้ส่งผลให้เงินเยนญี่ปุ่นและฟรังก์สวิสอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นผู้เสียเปรียบหลักในวันนี้
- ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยฟิวเจอร์สน้ำมัน (OIL) เพิ่มขึ้นราว 2% ทรงตัวเหนือระดับ 65 ดอลลาร์ ขณะที่ OIL.WTI ปรับขึ้น 2.1% แตะระดับมากกว่า 62 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ฟิวเจอร์สก๊าซธรรมชาติลดลงเกือบ 3.8% ลบกำไรที่ได้เมื่อวันศุกร์เกือบหมด
- ฟิวเจอร์สกาแฟหลุดจากช่วงการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ปรับตัวลดลงประมาณ 3.6% ทำให้ราคาต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ขณะที่ตลาดโกโก้มีความเชิงบวกเล็กน้อย แม้ว่าสัญญาซื้อขายจะยังลดลงประมาณ 0.5%
หน้านี้มีการใช้คุกกี้ คุกกี้คือไฟล์ที่จัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณและเว็บไซต์ส่วนใหญ่ ใช้เพื่อช่วยปรับประสบการณ์การใช้งานเว็บของคุณให้เป็นส่วนตัว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา คุณสามารถจัดการคุกกี้ได้โดยคลิก "การตั้งค่า" หากคุณยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา ให้คลิก "ยอมรับทั้งหมด"
