แรงบวกในตลาดหุ้นจีนเริ่มอ่อนแรง
แม้ก่อนหน้านี้ตลาดจีนได้แรงหนุนจากความหวังต่อภาคเทคโนโลยีและการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ แต่แรงซื้อเริ่มชะลอตัวจากการขายทำกำไร
-
สัญญา HK.cash ร่วงกว่า 2% ท่ามกลางความกังวลว่าทางการจีนอาจกลับมาใช้นโยบาย Deleveraging และบังคับให้โบรกเกอร์เข้มงวดขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ
ตลาดหุ้นจีนเดือนสิงหาคม 2025 เพิ่มมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือ-
กระแสเงินทุนไหลเข้าจากนักลงทุนท้องถิ่นและบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นหลังข้อพิพาทการค้ากับสหรัฐฯ ผ่อนคลาย คือแรงขับเคลื่อนหลัก
-
อย่างไรก็ตาม ความร้อนแรงนี้ทำให้เกิดความกังวลว่า ตลาดอาจ “Overheat”
มาตรการควบคุมความเสี่ยง
-
Sinolink Securities เพิ่มเงินมาร์จิ้นเป็น 100% สำหรับสัญญาใหม่ เพื่อลดการใช้เลเวอเรจเกินตัว
-
กองทุนบางแห่งเริ่มจำกัดการรับเงินลงทุนรายวัน เช่น กองทุน Feeder ของ GF Star Growth Index ETF กำหนดเพดานเพียง 100 หยวน ถือเป็นมาตรการที่เข้มงวดที่สุดในรอบนี้
-
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นแผ่นดินใหญ่พุ่งแตะ 3.1 ล้านล้านหยวน (433 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สูงสุดอันดับ 2 เป็นประวัติการณ์
-
ยอดคงค้างของสินเชื่อมาร์จิ้นทะลุ 2.1 ล้านล้านหยวน สูงสุดตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งเป็นช่วงฟองสบู่เก็งกำไร
แรงซื้อจากรายย่อยพุ่งแรง
-
บัญชีโบรกเกอร์ใหม่จากนักลงทุนรายย่อยเดือนกรกฎาคมพุ่งขึ้น 71% YoY สะท้อนกระแส FOMO และการเข้ามาของเม็ดเงินรายย่อยอย่างมหาศาล
มุมมองนักวิเคราะห์
-
มีความเป็นไปได้ที่ฟองสบู่กำลังเกิดขึ้นในบางเซ็กเตอร์
-
แต่มาตรการจำกัดสินเชื่อครั้งนี้ เน้นการปกป้องโบรกเกอร์และนักลงทุน มากกว่าการบอกว่าตลาดถึงจุดสูงสุดแล้ว
-
ทั้งนี้ ปักกิ่งมีประวัติการเข้ามาแทรกแซงทั้งช่วงขาลงแรงและช่วงที่ตลาดร้อนแรงเกินไป ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา ได้มีการ เข้มงวดกฎการขายชอร์ต และ เพิ่มข้อกำหนดมาร์จิ้น หลายรอบ โดยล่าสุดยังเสริมความเข้มอีกในปี 2024
ที่มา: xStation5