สหรัฐฯ:
ตลาดหุ้นเริ่มสัปดาห์ด้วยความเชิงลบ ดัชนีหลักทั้งหมดปรับตัวลดลง NASDAQ100 ร่วงมากที่สุดกว่า 0.6% ส่วน Russell2000 ก็ลดลงในระดับใกล้เคียง S&P500 และ Dow ลดลงเล็กน้อยราว 0.4%
นักลงทุนมีความกังวลต่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ชัดเจน Nvidia และ Palantir ร่วง 1.5% ขณะที่ Tesla ลดลงมากกว่า 2%
แม้ว่าตัวเลข Pending Home Sales เดือนพฤศจิกายนสูงกว่าที่คาดไว้มาก +3.3% MoM (คาด +1%) แต่ปัญหาซัพพลายล้นตลาดและราคาที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการเริ่มส่งผลต่อผู้ขาย
ยุโรป:
ดัชนียุโรปมีการซื้อขายผสม ดัชนีส่วนใหญ่ปิดใกล้ระดับเปิดตลาด แต่หลังปิดมีการฟื้นตัวเล็กน้อย NED25 (เนเธอร์แลนด์) ขึ้นกว่า 0.6% SPA35 และ DE40 ขึ้นกว่า 0.2% ส่วน EU50, UK100, FRA40 ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยเกิน 0.1% ดัชนี ITA40 (อิตาลี) ปรับตัวลดลง 0.2%
หุ้นกลุ่มป้องกันประเทศยุโรป ปรับตัวลดลงจากแรงกดดันการเจรจาสันติภาพยูเครนที่ไม่คืบหน้า Rheinmetall ลดเกือบ 1% และ Leonardo ลดเกือบ 2% หลังจากนั้นมีรายงานการโจมตีล้มเหลวต่อที่พักของประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งทางรัสเซียระบุว่าเป็นข้ออ้างในการเว้นระยะจากการเจรจา
สินค้าโภคภัณฑ์:
-
ราคาน้ำมันพุ่งเกือบ 2% จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางและซาอุดีอาระเบียเพิ่มบทบาทในความขัดแย้งเยเมน
-
ก๊าซธรรมชาติ (NATGAS) ปรับตัวขึ้นราว 3% แม้สต็อกเพิ่มขึ้นแต่น้อยกว่าที่คาด
-
ราคาสำหรับ โกโก้ เพิ่มกว่า 5% หลังการส่งมอบวัตถุดิบทางการเกษตรไปยังท่าเรือไอวอรี่โคสต์ต่ำกว่าที่คาด
โลหะมีค่า:
เกิดการปรับตัวลดลงรุนแรง Palladium ลด 16%, Platinum ลด 13%, Silver ร่วงกว่า 9%, และ Gold ลดประมาณ 4.5% ปัจจัยสำคัญมาจากการปิดสถานะเก็งกำไรในตลาดที่ซื้อขายเกินราคาและสภาพคล่องต่ำ พร้อมกับประกาศเพิ่ม Margin Requirement ของ CME
ตลาดเงิน:
ดอลลาร์สหรัฐฯ และเยนแข็งค่าเล็กน้อยแต่ครอบคลุม ตลาดอื่นอย่าง NZD, THB, HUF อ่อนค่า
คริปโต:
ความเชิงลบยังคงอยู่ Bitcoin ราว $87,300 และ Ethereum ร่วงต่ำกว่า $2,950 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตก็ปรับตัวลดลงตาม
US OPEN: เปิดตลาดต้นสัปดาห์ด้วยแรงกดดันเล็กน้อย ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
BREAKING: ธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) ปรับลดดอกเบี้ย – GBPUSD ฟื้นตัว
DE40: ข้อมูลมาก แต่การเคลื่อนไหวของตลาดน้อย
⏫น้ำมันพุ่งขึ้น 2% จากความไม่แน่นอนด้านอุปทาน