- 🌾 ราคาถั่วเหลืองพุ่งขึ้นก่อนการพบปะระหว่างทรัมป์–สี จิ้นผิง ที่เมืองปูซาน จากความหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจา และจากการที่จีนกลับมาซื้อถั่วเหลืองสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบเวลานาน
- อย่างไรก็ตาม หลังการเจรจาสิ้นสุดลง ราคาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงกว่า 1% เนื่องจากจีนไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้าครั้งต่อไป
- ในเชิงโครงสร้าง จีนยังคงนำเข้าถั่วเหลืองส่วนใหญ่จากบราซิล การซื้อจากสหรัฐรอบนี้จึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ทางการทูตมากกว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาด
- 🌾 ราคาถั่วเหลืองพุ่งขึ้นก่อนการพบปะระหว่างทรัมป์–สี จิ้นผิง ที่เมืองปูซาน จากความหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจา และจากการที่จีนกลับมาซื้อถั่วเหลืองสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบเวลานาน
- อย่างไรก็ตาม หลังการเจรจาสิ้นสุดลง ราคาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงกว่า 1% เนื่องจากจีนไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้าครั้งต่อไป
- ในเชิงโครงสร้าง จีนยังคงนำเข้าถั่วเหลืองส่วนใหญ่จากบราซิล การซื้อจากสหรัฐรอบนี้จึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ทางการทูตมากกว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาด
📉 สัญญาฟิวเจอร์สถั่วเหลืองในตลาดชิคาโกปรับตัวลดลงมากกว่า 1% หลังเสร็จสิ้นการพบปะระหว่าง ทรัมป์–สี จิ้นผิง ที่เมืองปูซาน แม้ว่าก่อนหน้านี้ราคาจะพุ่งขึ้นจากความหวังเรื่องข้อตกลงทางการค้าและการที่จีนอาจกลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนการเจรจาไม่นาน บริษัทของรัฐจีน COFCO ได้สั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐจำนวน 3 ล็อต สำหรับส่งมอบในเดือน ธันวาคมและมกราคม เพื่อแสดงท่าทีเชิงสัญลักษณ์ในเชิง “ไมตรี” ซึ่งนับเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงหลังจากช่วงเวลาที่ยาวนานที่จีนหลีกเลี่ยงการนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐ
 
🇨🇳 จีนกลับมาซื้อถั่วเหลืองสหรัฐครั้งแรกในรอบหลายเดือน – แต่ยังไม่เปลี่ยนทิศทางเชิงโครงสร้างของตลาด
ตั้งแต่สงครามการค้าระหว่างจีน–สหรัฐเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน จีนแทบไม่ได้ซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐเลย อย่างไรก็ตาม จีนได้ กระจายแหล่งนำเข้าอย่างมาก ตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น ทำให้คำสั่งซื้อล่าสุดนี้ อาจไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ แต่เป็นเพียงการเคลื่อนไหวในช่วงที่อุปทานจากอเมริกาใต้เข้าสู่ช่วงฤดูกาลชะลอตัว (ข้อมูลจาก Bloomberg Finance LP)
🌾 แนวโน้มราคา:
ราคาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม โดยเปิดการซื้อขายสัปดาห์นี้ด้วย ช่องว่างกระโดดขึ้น (gap-up) และแตะระดับสูงสุดรอบ 15 เดือนที่ราว 1,100 เซนต์ต่อบุชเชล แต่หลังจากคำประกาศของจีน ราคากลับปรับลงทันที
นักลงทุนบางส่วนเริ่มทำกำไร เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดข้อตกลงชัดเจน เช่น ตารางการซื้อตลอดทั้งปี อีกทั้งยังจำได้ว่าในปี 2020 จีนเคยประกาศซื้อถั่วเหลืองและสินค้าเกษตรจากสหรัฐ “ในปริมาณมาก” แต่ไม่ได้ดำเนินการครบถ้วนตามแผน ขณะเดียวกัน สถานะของนักลงทุนเก็งกำไร (speculators) ก็ยังไม่แน่ชัด โดยก่อนการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ พวกเขายังถือ สถานะขายสุทธิ (net short) ในสัญญาถั่วเหลืองอยู่
🌍 ภาพใหญ่ทางโครงสร้าง:
จีนยังคงพึ่งพาการนำเข้าจาก บราซิลมากกว่า 70% ของความต้องการทั้งหมดในปี 2025 ซึ่งเป็นผลจากสงครามภาษีและความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลให้เกษตรกรสหรัฐได้รับผลกระทบเชิงลบ โดยเฉพาะในช่วงฤดูขายหลัก (autumn) นักวิเคราะห์บางรายมองว่า การซื้อของ COFCO ครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองมากกว่าเศรษฐกิจจริง ปริมาณการซื้อประมาณ 180,000 ตัน ถือเป็น “สัญญาณไมตรี” มากกว่าการเปลี่ยนทิศทางการค้าจริงจัง
📊 มุมมองทางเทคนิค (Technical Outlook):
ราคาปัจจุบันกำลัง ดีดตัวขึ้นจากระดับ 1,070 เซนต์ต่อบุชเชล แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะ ปิดช่องว่าง (gap) ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่
- 
	1,058 เซนต์ (ระดับ Fibonacci Retracement 38.2%) 
- 
	1,042 เซนต์ (ระดับ Fibonacci Retracement 50.0%) 
 
: ECB, FOMC และ MAG7 – สัญญาณผสมและความระมัดระวังความเสี่ยง
ECB แถลงข่าว: ความไม่แน่นอนทั่วโลก แต่คงนโยบายเสถียรภาพ
🛢️ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นกว่า 2%
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศสหรัฐฯ: ถึงจุดสูงสุดแล้วหรือยัง?
 
             
                    
                                            