- The Aegaeon innovation allows a single GPU to be shared among up to seven AI models, significantly reducing the number of required Nvidia H100 cards.
- Thanks to this technology, Alibaba greatly lowers operational costs and mitigates the impact of export restrictions on access to modern GPUs.
- While investors reacted enthusiastically, the market awaits proof of the technology’s effectiveness at scale, which could influence Nvidia’s record revenues from the data center segment.
- The Aegaeon innovation allows a single GPU to be shared among up to seven AI models, significantly reducing the number of required Nvidia H100 cards.
- Thanks to this technology, Alibaba greatly lowers operational costs and mitigates the impact of export restrictions on access to modern GPUs.
- While investors reacted enthusiastically, the market awaits proof of the technology’s effectiveness at scale, which could influence Nvidia’s record revenues from the data center segment.
Alibaba พัฒนา Aegaeon – เทคโนโลยีใหม่ที่อาจเปลี่ยนวิธีใช้ GPU ในยุค AI
Alibaba หนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน ได้พัฒนาโซลูชันใหม่ชื่อ Aegaeon ที่อาจปฏิวัติรูปแบบการใช้ฮาร์ดแวร์สำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทระบุว่า เทคโนโลยีนี้ช่วยลดจำนวนการ์ดจอ Nvidia H100 ที่ต้องใช้ในการรันโมเดล AI ขนาดใหญ่ลงได้มากถึง 82% แต่ยังคงประสิทธิภาพและความเร็วเดิมไว้ได้
🔹 นวัตกรรมนี้ทำงานอย่างไร?
ปกติแล้ว การรันแต่ละโมเดล AI จะใช้ GPU แยกกัน ซึ่งมักทำให้ศักยภาพของ GPU ถูกใช้งานไม่เต็มที่
Aegaeon เปลี่ยนแนวคิดนี้ด้วยการให้ หลายโมเดลสามารถแชร์ GPU เดียวกันได้พร้อมกัน ส่งผลให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น — 1 GPU สามารถรองรับได้สูงสุดถึง 7 โมเดล
จากการทดสอบระบบนานกว่า 3 เดือน Alibaba Cloud ลดจำนวน GPU ที่ใช้จาก 1,192 ตัว เหลือเพียง 213 ตัว โดยไม่สูญเสียทั้งคุณภาพบริการหรือความเร็ว
🔹 ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?
-
GPU ขั้นสูงอย่าง Nvidia H100 มีราคาสูงมาก ทั้งค่าซื้อและค่าดำเนินการ จึงเป็นต้นทุนหลักของบริษัทด้าน AI และคลาวด์
-
เมื่อใช้ GPU น้อยลง Alibaba จะสามารถ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล ซึ่งส่งผลบวกต่อผลประกอบการ
-
นอกจากนี้ ด้วยข้อจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ต่อจีน ทำให้บริษัทจีนเข้าถึง GPU รุ่นใหม่ได้ยาก การใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่ให้ “คุ้มที่สุด” จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาความสามารถแข่งขัน

ประเด็นจึงตามมาว่า นี่คือจุดจบของอำนาจผูกขาดของ Nvidia หรือไม่?
ในมุมแรก ความต้องการการ์ดจอที่ลดลงอาจกลายเป็นความท้าทายสำหรับ Nvidia ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิปประมวลผลกราฟิกรายใหญ่ที่สุดของโลก เพราะบริษัทสร้างรายได้ส่วนใหญ่จากการขาย GPU ระดับสูงที่ใช้ในศูนย์ข้อมูลและการพัฒนา AI เซกเตอร์นี้ทำให้ Nvidia ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นหากลูกค้ารายใหญ่ เช่น Alibaba ลดความต้องการซื้อ GPU ลงอย่างมีนัยสำคัญ ย่อมอาจสะท้อนผลลบต่อรายได้ของบริษัท รวมถึงกระทบต่อซัพพลายเชนและแผนการลงทุนของทั้งอุตสาหกรรมด้วย
ในทางกลับกัน ตลาดกลับมีมุมมองที่ “ผสมกัน” ต่อข่าวนี้ —
-
ด้านหนึ่ง มองว่านี่คือโอกาสในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมหาศาล
-
แต่อีกด้านหนึ่ง นักลงทุนยัง “รอดู” ว่า Aegaeon จะสามารถทำงานได้จริงในระดับใหญ่ (at scale) หรือไม่ และจะมีปัญหาที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นหรือเปล่าซึ่งอาจเปลี่ยนภาพเชิงบวกในตอนนี้
แม้จะมีความลังเลอยู่บ้าง แต่ข่าวเกี่ยวกับ Aegaeon ก็ยังได้รับการตอบรับเชิงบวกจากตลาดหุ้น
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หุ้น Alibaba (BABA) ปรับตัวขึ้นเกือบ 40% สะท้อนว่าอย่างน้อยนักลงทุนบางส่วน “เชื่อมั่น” ในทิศทางและนวัตกรรมของบริษัท

Source: xStation
นักลงทุนเชื่อว่า Aegaeon จะไม่เพียงช่วยให้ผลประกอบการของ Alibaba ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะช่วย เสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทในฐานะผู้นำด้านคลาวด์คอมพิวติ้งและปัญญาประดิษฐ์ (AI) อีกด้วย
ตลาดมองว่าเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพสูงในการ ลดต้นทุนและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่าง การเข้าถึงฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ที่ถูกจำกัด และ ต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อความต้องการบริการ AI ทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีนี้อาจกลายเป็น ปัจจัยสำคัญในการผลักดันมูลค่าระยะยาวของ Alibaba และ ดึงดูดพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ เข้ามามากขึ้น
ปฏิทินเศรษฐกิจ: ข้อมูล CPI ของแคนาดาอยู่ในจุดสนใจของตลาด
⏬ เงินปรับตัวลดลงเกือบ 5%
คาดอะไรได้บ้างจากผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 ของโคคา-โคล่า?
ตลาดเด่นวันนี้: Bitcoin