อ่านเพิ่มเติม

5 ข้อผิดพลาดในการลงทุนที่นักลงทุนควรหลีกเลี่ยง

บทความที่เกี่ยวข้อง:
เวลาอ่าน: 1 นาที
บุคคลที่กำลังจดจ่อกับการพิมพ์บนแล็ปท็อป โดยมีเส้นสีแดงปรากฏบนหน้าจอ แสดงถึงการทำงานหรือตรวจแก้เนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
adobe stocks

การลงทุนเป็นเครื่องมือทรงพลังในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว แต่ความผิดพลาดที่พบบ่อย เช่น การพยายามจับจังหวะตลาด ขาดการกระจายความเสี่ยง และการตัดสินใจด้วยอารมณ์ อาจทำให้เป้าหมายทางการเงินสะดุดโดยไม่จำเป็น

อย่าปล่อยให้ข้อผิดพลาดที่หลีกเลี่ยงได้มาทำลายศักยภาพของพอร์ตลงทุน เริ่มต้นตัดสินใจอย่างมีระบบ และควบคุมความเสี่ยงอย่างมืออาชีพตั้งแต่วันนี้

การลงทุนอาจเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการสร้างความมั่งคั่งและบรรลุอิสรภาพทางการเงิน แต่ก็ใช่ว่าจะปราศจากข้อผิดพลาด แม้แต่ผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์มากที่สุดก็ยังทำผิดพลาดซึ่งอาจทำให้เสียทั้งเวลา เงินทุน และโอกาส 

ไม่ว่าจะเป็นการไล่ซื้อหุ้นที่เป็นกระแส หรือการละเลยการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบ ความผิดพลาดเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์การลงทุนและเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว

ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจ 5 ข้อผิดพลาดที่นักลงทุนมักทำบ่อยที่สุดพร้อมแนวทางในการหลีกเลี่ยง เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจตลาดมากขึ้น วางแผนได้ชัดเจน และลงทุนอย่างมั่นใจ การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดพื้นฐานเหล่านี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่แบ่งแยกระหว่างความสำเร็จทางการเงินกับโอกาสที่สูญเสียไปโดยไม่รู้ตัว

ข้อสรุปสำคัญ

  • การลงทุนต้องอาศัยความรู้ วินัย และความสามารถในการหลีกเลี่ยงกับดักทั่วไป
  • การรับรู้และเข้าใจอคติทางความคิดสามารถช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น
  • เป็นเรื่องธรรมดาที่นักลงทุนจะทำผิดพลาด และแม้แต่ผู้จัดการการลงทุนที่มีชื่อเสียงที่สุด เช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ จอร์จ โซรอส หรือสแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ ก็เคยทำผิดพลาดหลายครั้งตลอดอาชีพการงาน
  • ข้อผิดพลาดในการลงทุนที่พบบ่อย ได้แก่ การขาดการวิจัย การตัดสินใจโดยใช้ความรู้สึก และแนวทางการกระจายความเสี่ยงที่ผิดหรือขาด
  • การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและอคติสามารถนำไปสู่กลยุทธ์และผลลัพธ์การลงทุนที่ดีขึ้น บทเรียนจากวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่น ฟองสบู่และการล่มสลายก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเช่นกัน

5 ข้อผิดพลาดในการลงทุนที่พบบ่อย

กราฟแสดงแนวโน้มของราคาตลอดช่วงระยะเวลาที่กำหนด
 

Image source: Adobe Stock Photos

การทำความเข้าใจข้อผิดพลาดทั่วไปจากมุมมองที่หลากหลายจะช่วยให้นักลงทุนสามารถรับรู้ถึงกับดักและอคติที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งช่วยให้สามารถตัดสินใจในตลาดหุ้นได้ดีขึ้นและมีข้อมูลมากขึ้น ต่อไปนี้คือรายละเอียดของข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุด

พยายามจับจังหวะตลาด (Trying to Time the Market)

  • คำอธิบาย: การจับจังหวะตลาดหมายถึงความพยายามที่จะซื้อเมื่อราคาต่ำและขายเมื่อราคาสูงโดยการทำนายการเคลื่อนไหวของตลาด กลยุทธ์นี้มักเกิดจากความมั่นใจเกินไป, ความลวงของการควบคุม และอคติที่เกิดจากความพร้อมของข้อมูล (availability bias) — ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่าสามารถคาดการณ์ราคาระยะสั้นได้จากเหตุการณ์หรือข่าวสารล่าสุด ความกลัวที่จะพลาดโอกาส (FOMO) และพฤติกรรมฝูงชนยิ่งทำให้เกิดการตัดสินใจที่ขาดความรอบคอบในการเข้าหรือออกจากตลาดในเวลาที่ผิด
  • ตัวอย่าง: ในช่วงวิกฤตตลาดหุ้นปี 2020 จากโควิด-19 นักลงทุนหลายคนขายหุ้นด้วยความตื่นตระหนก ส่งผลให้พลาดโอกาสฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว วิธีที่เหมาะสมคือการมีวินัยในการถือครองหุ้นระยะยาวจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในกรณีนี้

ขาดการกระจายความเสี่ยง หรือกระจายความเสี่ยงผิดวิธี (Lack of or Wrong Diversification)
คำอธิบาย: การไม่กระจายความเสี่ยงหมายถึงการลงทุนในสินทรัพย์ ประเภท หรือหุ้นตัวเดียวมากเกินไป ความผิดพลาดนี้มักเกิดจากอคติความคุ้นเคย (familiarity bias) ที่ชอบลงทุนในหุ้นที่รู้จัก อคติในประเทศตัวเอง (home bias) ที่ลงทุนในบริษัทในประเทศมากเกินไป และความมั่นใจเกินเหตุในหุ้นบางตัว สิ่งนี้เพิ่มความเสี่ยงเฉพาะด้านและส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของพอร์ตลงทุน สิ่งที่แย่กว่าคือการกระจายความเสี่ยงที่ผิดวิธีซึ่งทำให้นักลงทุนรู้สึกปลอดภัยเกินจริง เช่นการรวมหุ้นที่มีความสัมพันธ์กันสูงในพอร์ต
ตัวอย่าง: นักลงทุนที่ลงทุนทั้งหมดในหุ้นเทคโนโลยีอาจประสบกับการขาดทุนหนักในช่วงตลาดหุ้นเทคโนโลยีถล่ม เช่นในช่วงฟองสบู่ดอทคอมต้นปี 2000 การกระจายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรมและสินทรัพย์ช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้

ลงทุนด้วยอารมณ์ (Emotional Investing)
คำอธิบาย: การลงทุนด้วยอารมณ์เกิดขึ้นเมื่อการตัดสินใจถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัว โลภ หรืออารมณ์อื่นๆ แทนการวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล อคติทั่วไปได้แก่การหลีกเลี่ยงการขาดทุน (loss aversion) ที่กลัวเสียมากกว่าต้องการกำไร และอคติยึดติดกับเหตุการณ์ล่าสุด (recency bias) อารมณ์เหล่านี้นำไปสู่การขายหุ้นในช่วงตลาดขาลงอย่างตื่นตระหนก หรือซื้อเกินความจำเป็นในช่วงตลาดขาขึ้น
ตัวอย่าง: ในวิกฤตการณ์การเงินปี 2008 นักลงทุนหลายคนขายหุ้นด้วยความกลัวขาดทุนหนัก ในขณะที่ผู้ที่รักษามุมมองระยะยาวและมีสติสามารถรับมือและได้รับผลตอบแทนจากการฟื้นตัวของตลาดในปีถัดมา

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นและใช้สำหรับการศึกษาเท่านั้น ความคิดเห็น การวิเคราะห์ ราคา หรือเนื้อหาอื่น ๆ ในเอกสารนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำแนะนำในการลงทุน หรือเพื่อให้ความเข้าใจด้านกฎหมายของประเทศ Belize
ผลประกอบการในอดีตไม่ได้เป็นการรับประกันถึงผลประกอบการในอนาคต การกระทำหรือการตัดสินใจใด ๆ ตามข้อมูลในเอกสารนี้ เป็นความเสี่ยงของผู้ดำเนินการเอง XTB ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความสูญเสีย ความเสียหาย หรือผลกำไรหรือขาดทุนใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมจากการใช้ข้อมูลในเอกสารนี้
ทุกการตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และเป็นความรับผิดชอบของท่านเอง
คำถามพบบ่อย

 

คำถามที่พบบ่อย

การจับจังหวะตลาดหมายถึงการพยายามทำนายความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในระยะสั้น เพื่อซื้อในราคาต่ำและขายในราคาสูง ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือการซื้อในช่วงที่ตลาดอยู่ในจุดสูงสุดจากความตื่นเต้น หรือขายในช่วงที่ตลาดตกต่ำจากความกลัว ซึ่งมักส่งผลให้ได้ผลตอบแทนที่ไม่ดี การลงทุนอย่างมีวินัยในระยะยาวมักให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในระยะยาว

การขาดการกระจายความเสี่ยงหมายถึงการลงทุนเงินจำนวนมากเกินไปในสินทรัพย์ ภาคธุรกิจ หรือ ตลาดเพียงอย่างเดียว กลยุทธ์เช่นนี้เพิ่มความเสี่ยงเฉพาะด้าน หากสินทรัพย์นั้นมีผลประกอบการต่ำ อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อพอร์ตการลงทุนของคุณ การกระจายความเสี่ยงช่วยกระจายความเสี่ยงออกไป และช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด

เข้าสู่ตลาดพร้อมลูกค้าของ XTB Group กว่า 2 000 000 ราย

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เราให้บริการมีความเสี่ยง เศษหุ้น (Fractional Shares) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการจาก XTB แสดงถึงการเป็นเจ้าของหุ้นบางส่วนหรือ ETF เศษหุ้นไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอิสระ สิทธิของผู้ถือหุ้นอาจถูกจำกัด
ความสูญเสียสามารถเกินกว่าเงินที่ฝาก